Header Ads

โฆษณา

การค้นหาข้อมูลผ่านเสิร์ชเอนจินที่เหมาะสม

โดยทั่วไปแล้ว เสิร์ชเอนจินเป็นที่นิยมเพราะสะดวกและรวดเร็ว เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย ซึ่งมีวิธีการหลากหลายมาก ได้แก่
1.การใช้ Keyword search engine ค้นหาข้อมูลด้วยคำที่เจาะจง                                                       
   โดย เสิร์ชเอนจินที่นิยมมากในปัจจุบันคือ Google ซึ่งเน้นการเเสดงผลที่รวดเร็ว โดย Google ใช้วิธีค้นหาเพจที่มีคำที่เกี่ยวข้องในช่องค้นหา ซึ่งสามารถป้อนได้ 80 ภาษาทั่วโลก มีเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ให้บริการในส่วนต่างๆ กว่า 36 ประเทศ
1) การตั้งค่าในการค้นหา คือเราสามารถกำหนดภาาหลักที่ใช้ ตำแหน่งที่ตั้ง หรืออื่นๆเพื่อที่เราจะได้ข้อมูลที่เเม่นยำที่สุดได้เ
2) การเริ่มต้นค้นหา เริ่มจาการคลิกปุ่มค้นหา แล้วจะมีการแสดงรายการเว็บเจผลลัพธ์ที่ตรงกับคำค้นเพื่อให้ผู้ใช้เลือกเข้าชมหน้าเว็บเพจได้ทันที
3) เทคนิคการค้นหาเว็บเพจจาก Google โดยเราจะสามารถใช้เทคนิคต่างๆเพื่อหาข้อมูลที่เจาะจงอย่างยิ่งได้ เช่น การค้นหาเจาะจงประเภทไฟล์ การเชื่อมคำให้เเคบลง หรือการค้นหาแบบพิเศษต่างๆ
ยกตัวอย่างเช่น   - การใช้หลายๆคำ  - การใช้เครื่องหมาย “__” เพื่อค้นหาแบบรวมคำ - การใช้ OR
-การตัดคำที่ไม่ต้องการค้นหาออกไป
4) การให้ Googleช่วยแปลภาษาบนเว็บ สามารถแปลได้ถึง 64 ภาษา โดยให้คลิกจุดที่มีคำว่า “Translate this page” โดยความสามารถนี้มีเฉพาะใน www.google.com  โดยที่ www.google.co.th จะไม่มี แต่เราทำการสามารถเปลี่ยนแปลงได้ดังนี้
5) การค้นหาขั้นสูง คือการกำหนดขอบเขตการค้นหาให้แคบลง เพื่อจะค้นหาเว็บเพจที่เราตรงการให้ตรงยิ่งขึ้น โดยเลือกใช้ “การค้นหาขั้นสูง”
6) การค้นหาไฟล์ภาพบนอินเทอร์เน็ต คือเราสามารถค้นหารูปภาพได้โดย คลิกคำว่า “ค้นรูป” ก่อนป้อนคำค้นหา โดยGoogle จะแสดงภาพขนาดย่อให้เราเห็นพร้อมรายละเอียดของภาพนั้น เพื่อให้ผู้ใช้เลือกเปิดดู
2.การใช้ Meta search engine ค้นหาข้อมูล
   เอนจินประเภทนี้ไม่มีฐานข้อมูลของตนเอง จึงไปอาศัยค้นหารายชือเว็บเพจที่เราต้องการ จากฐานข้อมูลของเอนจินตัวอื่น และแสดงผลตามที่เราต้องการ Meta search engine ที่ได้รับความนิยม เช่น Zoo,Dogpile เป็นต้น
3.การใช้ Subjact directory ค้นหาข้อมูลตามหมวดหมู่
   เป็นเว็บไซต์ที่มีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ต โดยแต่ละเว็บไซต์ถูกจัดหมวดหมู่อย่างเหมาะสม ดังนั้น เอนจินนี้จะไม่ครอบคลุมทุกเว็บไซ์ในอินเตอร์เน็ต แต่ผลลัพธ์จะตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากกว่า Subject directory มี 2 ลักษณะ คือ
   1) Web directory เป็นเว็บไซต์รวบรวมข้อมูลและให้บริการข้อมูลทั่วๆไป เช่น www.sanook.com www.yahoo.com เป็นต้น
   2)Subject gateway หรือ Subject specific เป็นเว็บไซต์ที่มีการรวบรวมข้อมูลและให้บริการข้อมูลเฉพาะด้าน มักเน้นเนื้อหาทางวิชาการ มีการแบ่งหมวดและแยกหัวเรื่องโดยบรรณารักษ์ ดังนั้น Subject gateway จึงมีฐานข้อมูลขนาดเล็กกว่า เสิร์ชเอนจิ้นทั่วไป เช่น http://nature.ac.uk www.academicnfo.com  เป็นต้น

แหล่งที่มา พิมลพรรณ ประเสิร์ฐวงษ์ เรพเพอร์ และคณะ. (2551).เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร. กรุงเทพฯ:อักษรเจริญทัศน์ อจท.

ไม่มีความคิดเห็น